Day 6: IKEA’s World
ใช่ค่ะ วันนี้เราจะบุกไปถึงต้นกำเนิดของอิเกีย แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่เรารักมาก ที่เมือง Älmhult ซึ่งอยู่ไกลจาก Stockholm ไปทางใต้ เราเดินทางโดยรถไฟจาก Stockholm Central Station ไปลงที่สถานี Älmhult โดยจองตั๋วล่วงหน้าที่ www.sj.se ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 20 นาที ซึ่งเราสามารถเลือกโซนและที่นั่งได้เลย ถ้าเลือก Quiet zone ก็จะเจอเพื่อนร่วมทางเป็นมนุษย์ทำงานที่นั่งพิมพ์งานระหว่างเดินทางและผู้สูงอายุ ขอย้ำว่ามันเงียบจริงๆ ถ้าไปกับกลุ่มเพื่อนและหวังว่าจะนั่งคุยกัน กินขนมระหว่างทางไปด้วยละก็ ไม่ควรค่ะ
เมื่อเดินทางเข้าใกล้ Älmhult มากขึ้น สองข้างทางก็เปลี่ยนเป็นสีขาวของหิมะจนถึงสถานีปลายทางของเรา เป็นสถานีเล็กๆ ซึ่งใกล้กับ IKEA Hotell มาก จากใน Google Map คือสามารถเดินได้ แต่พอถามคุณป้าที่ชานชาลา นางบอกว่าให้นั่งรถเมล์สายนี้ๆ ไป รถเมล์นี่ก็พาอ้อมไปไกลมากห่างจากหมุดที่ปักไว้เรื่อยๆ จนวนมาที่หน้า IKEA Hotell มารู้ตอนขากลับว่าจริงๆ แล้วมันมีสะพานข้ามทางรถไฟติดกับชานชาลา มีลิฟต์พร้อม ไม่ต้องลากกระเป๋าเดินไกลๆ เลย ยังดีที่รถเมล์ฟรี ก็ถือว่าชมเมืองไป
ขอเล่าให้เห็นภาพกว้างๆ ก่อนว่าในอาณาจักรที่เรามาถึงนี้ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เดิมที่แห่งนี้เคยเป็น Store แห่งแรกของอิเกียในปี 1958 หากใครได้ไปเยือนที่นี่จริงๆ จะคิดเหมือนกันว่า ทำไมถึงมาสร้างสโตร์ไกลแทบจะอยู่ในป่าขนาดนี้ ใครจะเดินทางมาถึงที่นี่ แต่มันมีค่ะ และเพราะมันไกลนี่แหละ IKEA Motel จึงเกิดขึ้นในปี 1964 เพื่อให้คนที่เดินทางมาซื้อของได้พักทานอาหารและค้างซักคืนก่อนจะเดินทางกลับ ผ่านมาจนปี 2012 สโตร์ก็ถูกปิดและย้ายไปที่ใหม่ในเมืองเดียวกัน เพื่อ Renovate ให้กลายเป็น IKEA Museum เปิดให้เข้าชมในปี 2016 และจาก IKEA Motel ก็ปรับปรุงใหม่เป็น IKEA Hotell ให้มีความ Modern เข้ายุคเข้าสมัยมากขึ้น
หากคุณมีความสุขเวลาเดินเล่นอยู่ในอิเกียแค่ไหน คุณก็จะมีความสุขกับที่นี่มากเช่นกัน ความฝันที่คุณอยากแต่งห้องด้วยของทุกชิ้นจากอิเกียจะเป็นจริงที่นี่ค่ะ เราชอบมากกกกก ห้องที่เราจองไว้เป็นแบบ Cabin Room ซึ่งจะเป็นห้องใหญ่ที่มี 2 ห้องนอนแยกกัน กับ 1 ห้องน้ำเพื่อแชร์กัน นอกจากห้องพักที่เราจองแล้ว พื้นที่ส่วนกลางก็มีการจัดเป็นห้องนั่งเล่น มีบาร์เล็กๆ ที่มีชา กาแฟ ไว้บริการด้วย

หลังจากเก็บของเสร็จก็ได้เวลาไปสำรวจ IKEA Museum กัน เพียงแค่เดินข้ามตึกไปเท่านั้นก็ถึงแล้ว ก็แอบเหงาๆ นิดนึง เพราะแทบไม่มีใครเลย แต่ทุกอย่างทำดีมาก ทั้งพนักงานทุกคนมีความตั้งใจและใส่ใจที่จะให้บริการ เช่นวันนี้ที่พอเราเดินอยู่ซักพักก็เห็นพนักงานเอาตุ๊กตามาวางตามซอกต่างๆ ในส่วนจัดแสดง เราก็เห็นว่ามันน่ารักดีก็เลยทักเค้า เค้าเลยเล่าว่าพรุ่งนี้จะมีเด็กนักเรียนมาทัศนศึกษาที่นี่ เค้าเลยอยากหากิจกรรมให้เด็กๆ เล่นกัน ด้วยการหาตุ๊กตาที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ เด็กจะได้ไม่เบื่อ ฟังแล้วก็ เออ เค้าใส่ใจจัง ประทับใจอะ
โซนนี้มีความสุขมาก มีการเซ็ตอัพเป็นชอตของหน้าปกแคตตาล็อกเล่มล่าสุด (ในตอนนั้น) ของอิเกีย จัดแสงจัดไฟไว้เรียบร้อย ที่กำแพงด้านนอกเซ็ตจะมีปุ่มให้กดเพื่อตั้งเวลาถ่าย ด้านบนจะมีจอให้เราดู แต่ละชอตมีเวลา 10 วินาที จากนั้นกล้องก็จะถ่ายอัตโนมัติ แล้วรูปก็จะถูกปริ๊นออกมาบนกระดาษโฟโต้อย่างดีแบบนี้ ตอนนั้นไม่มีคนเลย ก็ถ่ายแล้วถ่ายอีกจนกว่าจะพอใจ ฮ่าๆ
อีกอย่างที่เป็นความพิเศษของที่นี่คือเค้าจะมี Event จัดเรื่อยๆ เช่น Workshop, Exhibition หรือ Party ซึ่งโชคดีมากปนตั้งใจที่วันที่เราไปเค้ามีปาร์ตี้ Äfterwork i Älmhult พอดี คือจะเป็นกึ่งๆ Buffet จ่าย 129 SEK ได้ Main 1 + Drink 1 กับสลัดฟรีตลอดงาน ทุกอย่างบริการตัวเอง เราก็เข้าไปแบบไม่รู้จักใคร ฮ่าๆๆ เดาเอาว่าคนที่มาส่วนใหญ่น่าจะทำงานที่อิเกียนี่แหละ เพราะก็ดูรู้จักกันหมด ส่วนเราก็นั่งชิลล์ๆ จิบไวน์จนหมดแก้วแล้วก็กลับไปนอน ฮ่าๆ
Day 7
เช้าวันนี้ตื่นมาแล้วรู้สึกไม่อยากเดินทางเลย อยากอยู่ต่ออีกซักวัน แต่ไม่ได้ละ เพราะวันนี้เรามีนัดกับการนั่งรถไฟลอดใต้ทะเล ใช่ค่ะ! หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยก็เดินลากกระเป๋ามาที่สถานีรถไฟเดิม (ซึ่งใกล้มากจนเสียดายความเหนื่อยเมื่อวาน ฮ่าๆ) ยืนรอท่ามกลางแสงแดดแต่อุณหภูมิติดลบนิดๆ และหิมะไม่มีแล้ว
การนั่งรถไฟสายนี้ก็เช่นเคยคือ เห็นจากรูปก็ว้าวที่อุโมงค์มันสร้างจมหายไปใต้ทะเลจากฝั่งสวีเดนแล้วไปโผล่ที่ฝั่งเดนมาร์ก เราก็เลยวางแผนให้ต้องเดินทางด้วยเส้นทางนี้ให้ได้ ฟังดูปัญญาอ่อนดี เพราะพอนั่งจริงๆ เราก็ไม่ได้จะเห็นใต้ทะเลซักหน่อย ก็เห็นผนังอุโมงค์เหมือนเดิม จะมีบางช่วงที่หูดับเพราะน่าจะลงไปลึกอยู่ แล้วก็โผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำเป็นวิวกลางทะเล แต่ก็นั่นแหละ จะทำตามก็ได้ ไม่ว่ากัน ฮ่าๆๆ
ขอตัดจบไว้เท่านี้ เจอกันที่ Copenhagen ตอนต่อไปค่ะ